One Night in Amsterdam with Mariah Carey

balloon
โปสเตอร์โปรโมตทัวร์ของ Coldplay

สำหรับโพสต์นี้ เราจะมาเล่าเรื่องทริปสุดสัปดาห์ใน Amsterdam ก่อนอื่นต้องพูดถึงจุดกำเนิดของทริปนี้ก่อน ว่าจริงๆแล้วเหตุผลที่มา Amsterdam หลักๆแล้วไม่ใช่เพราะจะมาเที่ยว แต่เพราะจะมาดูคอนเสิร์ต 555 ต้องบอกว่าช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้มีศิลปินอเมริกาคนโปรดของเรามาเปิดคอนเสิร์ตในยุโรปกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Adele, Coldplay, Mariah Carey, Macklemore ซึ่งไหนๆก็ไหนๆละก็อยากจะไปดูคอนเสิร์ตแบบสดๆของศิลปินที่ชอบซักวงนึงอย่างน้อยซักครั้งหนึ่งในชีวิต (ตอนอยู่ไทยเคยไปดูคอนเสิร์ตอะไรอย่างนี้แค่ครั้งเดียว คือคอนเสิร์ตของ David Foster ตอนนั้นตามๆเพื่อนไปดู ไม่ค่อยรู้จักเพลงหรอก 555) ตอนแรกว่าจะไปดู Coldplay แต่มัวแต่อ้อยอิ่ง เค้าเปิดจองจนบัตรหมดแล้วเพิ่งจะมาเช็คราคา (ก็คนไม่เคยมีประสบการณ์จองตั๋วคนเสิร์ตอะ 55) ส่วนรอบของเมืองใกล้ๆอื่นๆที่ยังพอมีตั๋วเหลืออยู่บ้างก็ราคาแพงยับ เลยตัดใจดีกว่า แล้วตอนนั้น Mariah Carey ก็ประกาศทัวร์ยุโรปพอดี ตอนแรกก็กะจะจองคอนเสิร์ตในซักเมืองในเยอรมันแล้ว แต่ก็อ้อยอิ่งเหมือนเดิม จนตั๋วดีๆโดนจองหมด =.,= แถมตั๋วที่เยอรมันก็ขายแพงมาก พอเช็คดูอีกที ปรากฏว่าตั๋วคอนใน Amsterdam ราคาถูกมากๆ สำหรับที่นั่งราคาแพงสุดที่ไม่ใช่แถวๆติดหน้าเวที เค้าขายราคาแค่ประมาณ 70 ยูโร หรือ 2800 บาทเอง! เลยรีบหลับหูหลับตาจองไปเลย ไหนๆจะไปดูคอนเสิร์ตละ ได้เที่ยวด้วยก็ดี แล้ววันที่จัดคอนเสิร์ตก็เป็นช่วงสุดสัปดาห์ด้วย อะไรๆช่างพอเหมาะพอเจาะ ก็เลยกลายมาเป็นจุดกำเนิดของทริปๆนี้นั่นแล

mariah-carey-sweet-sweet-fantasy-2016-europe-tour-photo-600x310
โปสเตอร์คอนเสิร์ต the Sweet Sweet Fantasy Tour ของ Mariah Carey

หลังจากมีเป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้แล้ว ก็มาถึงเรื่องรายละเอียดอื่นๆ ในเรื่องของการเดินทางไปกลับ ตอนแรกก็จะใช้บริการ Megabus เจ้าเก่า รอซื้อตั๋วราคา 1 ยูโร แต่ไปๆมาๆปรากฏว่าเพื่อนเราจากเบลเยี่ยมจะมาเที่ยวด้วย ถ้าเรานั่ง Megabus เวลาเดินทางจะไม่พอดีกัน เลยต้องไปใช้บริการบริษัท Flixbus ที่เวลาดีกว่าแต่ราคาแพงกว่าแทน ราคาขากลับประมาณ 30 ยูโรได้มั้ง เป็นรถบัสกลางคืน นั่งรวดเดียวจาก Amsterdam กลับมา Karlsruhe ส่วนขาไปเราไปนอนค้างบ้านเพื่อนที่ Cologne คืนวันศุกร์ แล้ววันเสาร์ก็เดินทางต่อไปยัง Amsterdam โดยรถจากบริษัท Eurolines (ซึ่งเมื่อก่อนราคาแพงนะ แต่เดี๋ยวนี้ถูกลงแล้วเพราะคู่แข่งเยอะขึ้น แต่สภาพรถอะไรก็ไม่ได้ต่างจากบริษัทอื่นๆมาก) ส่วนในเรื่องของที่พักใน Amsterdam เราไปพักบ้านของคนรู้จักของเพื่อนที่เค้าเปิดห้องแถวๆในตัวเมืองให้เช่าราคาถูก ในเรื่องของแผนเที่ยว เรากับเพื่อนจากเบลเยี่ยมที่ชื่อ Frank วางแผนว่าจะไปเที่ยวสวนดอกทิวลิป Keukenhof กัน แล้วเราจะกลับเข้ามาเดินเที่ยวในตัวเมือง Amsterdam เองก่อนเดินทางกลับ

img_0053
Amsterdam Main Train Station

วันแรกใน Amsterdam เรามาถึงเมืองประมาณบ่ายสอง รถบัสที่นั่งมามาจอดที่สถานีรถไฟ Duivendrecht ใน Amsterdam หลังจากมาถึง สิ่งแรกที่เราอยากทำคือ ไปเซอร์ไพรส์โฮสต์เก่าของเราทั้งสามคนที่บ้าน (เป็นคนชอบเรื่องเซอร์ไพรส์ กรักๆๆ) ก็นั่งรถประจำทางเข้าเมืองไป เดินทางไปยังบ้านของโฮสต์คู่แรกด้วยความตื่นเต้น ที่อยู่อะไรยังเก็บไว้อยู่ หวังเต็มเปี่ยมว่าจะได้เจอ ปรากฏว่า พอไปถึง… เค้าย้ายบ้านออกไปแล้ว!! เงิบสิ แต่จะทำไรได้ ก็เดินทางไปหาโฮสต์อีกคนนึงต่อ คนนี้จำบ้านเลขที่ไม่ได้ แต่ยังพอจำได้ลางๆว่าอยู่แถวไหน ก็ไปเดินอ่านๆป้ายชื่อตรงตู้จดหมายแถวนั้นดู ปรากฏว่าเจอชื่อโฮสต์!! ก็เลยกดออด แต่กดไปสองสามรอบก็ไม่มีคนตอบรับ T.T วันต่อมาก่อนจะกลับไป Karlsruhe เรามากดอีกรอบก็ไม่มีคนอยู่ สงสัยไปเที่ยวกัน กะจะมาเซอร์ไพรส์ซะหน่อย อดเลย T.T

IMG_0106.JPG

พอแผนเซอร์ไพรส์ไม่เป็นไปตามคาด เราก็เลยเดินทางไปยังสถานที่จัดคอนเสิร์ตเลย เพราะก็ไม่รู้จะทำอะไร แถมไม่เคยไปคอนเสิร์ตมาก่อน กลัวคนจะเยอะ ต้องรีบมาเร็วๆ อะไรงี้ คอนเสิร์ตครั้งนี้ก็จัดที่ Ziggo Dome ซึ่งตั้งอยู่แถวชานเมือง สามารถเดินทางจากตัวเมืองออกไปโดยรถไฟฟ้าได้ พอไปถึงก็หา junk food กินรองท้อง แล้วก็ไปต่อแถวรอเข้าอาคาร เอาจริงๆคนไม่ค่อยเยอะเท่าที่คิด คอนเสิร์ตของโดมข้างๆที่จัดวันเดียวกันคนมาต่อกันยาวเป็นกิโลเลย ส่วนของเรามีคนอยู่หรอมแหรม 555 แต่ก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องรอนาน ตรงประตูก่อนเข้าฮอลล์เค้าก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจกระเป๋า ค้นละเอียดมาก แล้วก็ไม่อนุญาตให้เอาเครื่องดื่มเค้าไป

หลังจากผ่านด่านตรวจกระเป๋าและเข้ามาในอาคารได้แล้วก็ต้องไปฝากของ ในอาคารมีล็อคเกอร์อัตโนมัติให้ฝากของอยู่ แล้วก็มีบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ให้ฝากเสื้อโค้ต กระเป๋าเราใหญ่กว่าช่องของล็อคเกอร์เราเลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ตรงที่ฝากเสื้อโค้ตว่ากระเป๋าขนาดนี้ฝากที่ไหนได้บ้าง เค้าก็บอกว่าฝากตรงนี้ก็ได้ไม่เสียตังค์ เอ๊า! โชคดีนะที่กระเป๋าเราไม่เล็กกว่านี้ ไม่งั้นคงเสียตังค์เอาไปฝากในล็อคเกอร์แล้ว 55555

หลังจากฝากกระเป๋าแล้วก็ได้เวลาเตร็ดเตร่รอคอนเสิร์ตเริ่ม ตรงด้านในอาคารจะมีบริเวณที่เค้าขายของพวกแฟนคลับ พวกเสื้อ แก้วน้ำ โปสเตอร์ ฯลฯ ที่มีลายรูป Mariah Carey อยู่ ซึ่งแต่ละอย่างหาสวยๆไม่มีเลย ทำออกมาเอาไว้สำหรับขายให้แฟนเดนตายเท่านั้นจริงๆ 555 มองไปรอบๆ คนที่มาดูคอนเสิร์ตก็มีหลากหลายรูปแบบมาก แต่ที่แอบตกใจคือเห็นคนเอเชียเยอะมาก คงจะมีนักท่องเที่ยวที่มาดูแบบเราหลายคนอยู่แหละ 555 ที่แต่ละประตูทางเข้าฮอลล์คอนเสิร์ต จะมียามสองสามคนยืนเฝ้าอยู่ แต่ละคนยังเด็กๆหนุ่มสาวกันอยู่เลย และที่สำคัญคือแต่ละคนหน้าตาดีมาก 55555 เพื่อนเราเคยเล่าให้ฟังว่าเค้าเคยทำงานเป็นยามในคอนเสิร์ตเหมือนกัน แสดงว่าที่นี่เค้าคงจ้างคนหนุ่มๆสาวๆนี่แหละมาทำงานอะไรพวกนี้ ระหว่างรอคอนเสิร์ตถ้าไม่มีอะไรทำก็ไปเดินเล่นรอบๆดูยาม ดูเจ้าหน้าที่ได้ เพลิดเพลินเจริญตาเจริญใจอยู่ 555

img_0061

นอกจากนั้น บริเวณรอบๆฮอลล์ก็จะมีร้านๆขายเครื่องดื่มต่างๆ อารมณ์เหมือน food court ต้องแลกเป็นคูปองซื้อ ภาชนะที่เค้าให้มาก็จะเป็นแก้วพลาสติกธรรมดาไม่ว่าจะสั่งอะไรก็ตาม เราไม่ได้สั่งอะไร เพราะไม่อยากเสียเงิน เลยเดินเข้าฮอลล์ไปหาที่นั่งของตัวเอง แล้วนั่งรอคอนเสิร์ตเริ่ม ตอนช่วงก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่มนั้นเค้าก็จะเปิดเพลงพวกเพลงป๊อบที่ฮิตๆไปเรื่อยๆรองานเริ่ม ช่วงแรกของคอนเสิร์ตจะมีศิลปินมาเปิดคอนเสิร์ตก่อน ซึ่งศิลปินในคอนเสิร์ตนี้ก็เป็นดีเจชาวดัตช์ มามิกซ์พวกเพลงป็อบอยู่หน้าเวที อารมณ์เหมือนไปผับ ใครที่มีอารมณ์เต้น ก็เต้นไป แต่ส่วนใหญ่จะนั่งนิ่งๆ เพราะเพลงแอบไม่ค่อยมันส์ 555 แอบน่าเบื่ออยู่ เพิ่งจะมาคึกคักกันหน่อยตอนที่เค้าเปิดเพลง I wanna dance with somebody ของ Whitney Houston แต่พอจบเพลงนั้นแล้วก็จบโชว์ของดีเจพอดี = =”อารมณ์กำลังมาเลย แต่ว่าต่อไปก็จะเป็นเวลาของเจ้าของงาน ซึ่งก็คือ Mariah Carey แล้วววว ทุกคนก็นั่งรอกันด้วยความตื่นเต้น ระหว่างนั้นก็มีคนมาจัดๆเวที เอาเปียโนมาวาง มีนักดนตรีมาจูนเสียง ไฟก็มืดๆลง ความตื่นเต้นก็เริ่มก่อตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มคนดู ต่างคนต่างก็ใจจดใจจ่อรอว่า Mariah จะออกมาเมื่อไหร่ ตื่นเต้นสุดๆ วันนี้จะได้เห็น Mariah Carey ตัวเป็นๆแล้ว ><

แล้วในที่สุด หลังจากการรอคอยอันเนิ่นนาน ท่วงทำนองของเพลง Fantasy ที่ทุกคนคุ้นเคยก็ค่อยๆดังขึ้น แล้วในอีกไม่กี่อึดใจ เรือนร่างขนาดมหึมาของ Mariah Carey ก็ปรากฏขึ้นที่ตรงกลางเวที ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและตะโกนของผู้ชมทั่วทังฮอลล์ แล้วคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอยก็เริ่มต้นขึ้น ผู้ชมบางคนก็เพิ่งเดินเข้าฮอลล์มาตอนก่อนจะเริ่มโชว์ของ Mariah นี่แหละ เสียดาย ถ้ารู้มาก่อนว่ามาเข้างานสายขนาดนี้ได้นะ จะไปเที่ยวก่อน แล้วค่อยมาตอนก่อน Mariah จะขึ้นแสดงเหมือนกัน

img_0074

เราจะไม่พูดถึงตัวคอนเสิร์ตเพราะคิดว่าไม่ใช่สาระสำคัญ 555 แค่จะบอกว่าสำหรับคอนเสิร์ตนี้นั้น หลังจากดูจบแล้วรู้สึกว่าการมาดูสดๆแบบนี้มันก็ไม่เห็นจะต่างจากการดูวิดีโอที่คนอื่นอัดมาจากคอนเสิร์ตบน Youtube เลย ถึงจะมาดูสดมันก็ไม่ได้ฟินอะไรขนาดนั้น บรรยากาศก็ใช่ว่าจะสนุกสนานอะไรขนาดนั้น โอเคคือคนรอบตัวก็สนุกแหละ แต่พอคอนเสิร์ตจบอารมณ์ก็จบ ลืมหมด แยกย้ายกลับบ้าน ไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวคอนเสิร์ตหรือเป็นที่ตัวเรา 555 แต่ที่สำคัญคือนักร้องก็เห็นอยู่ไกลลิบๆ แทบไม่ต่างจากการดูจากในวิดีโอเลยอะเอาจริงๆ 55 มีข้อดีแค่อย่างเดียวคือระบบเสียงดีกว่าเท่านั้น คือฟังสดๆแล้วเสียงมันเพราะกว่าฟังจากวิดีโอ สรุปแล้วก็คือ สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากการมาดูคอนเสิร์ตสดๆในครั้งนี้ก็คือ คราวหน้าเก็บตังไปทำอย่างอื่นเถอะ 555 รอไว้มีเงินเหลือเยอะจริงๆแล้วค่อยมาคิดอีกทีว่าอยากดูจริงๆรึเปล่า แต่ยังไงก็ตาม อย่างน้อยก็พูดได้ว่า ในชีวิตนี้ได้ดูนักร้องคนโปรดเล่นคอนเสิร์ตสดๆมาครั้งหนึ่งแล้วแหละ 555

img_0079
ฉาย Music Video ขึ้นจอระหว่างที่ร้องเพลง When You Believe กับเสียงของ Whitney Houston

หลังจากจบคอนเสิร์ต เราก็เดินทางไปยังที่พัก ที่เพื่อนเรา Frank มารออยู่แล้ว หลังจากเก็บข้าวของเราก็ออกไปปาร์ตี้กันต่อในตัวเมือง Amsterdam ซึ่งเอาจริงๆสนุกกว่าไปดูคอนเสิร์ตอีก 5555 อย่างน้อยก็ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนข้างๆบ้าง ไม่เหมือนในคอนเสิร์ตที่ได้แต่มองดูศิลปินจากไกลๆอย่างเดียว ก็เป็นอันว่าจบลงไปแล้วกับค่ำคืนอันน่าจดจำใน Amsterdam ครั้งนี้ สำหรับโพสต์หน้าเดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องของอีกหนึ่งวันที่เหลือในทริปนี้ จะเป็นเรื่องของสวนทิวลิป Keukenhof และรูปถ่ายอีกนิดหน่อยจาก Amsterdam แล้วเดี๋ยวมาติดตามกันต่อในโพสต์หน้าโนะ

IMG_0137.JPG
Keukenhof Garden

Leave a comment