East Germany 2016

IMG_9533
วิวข้างทางจากบนรถบัส ไม่รู้ภูเขาสีขาวๆที่เห็นคืออะไรแต่ว่าลูกใหญ่มาก

ย้อนเวลากลับไปยังช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา หลังจากสอบเสร็จทุกวิชาแล้วเรายังมีเวลาว่างประมาณสัปดาห์กว่าเหลือไว้ให้เที่ยว ตอนนั้นไม่ได้มีความคิดอยากจะไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษ ก็เลยไป Berlin อีกรอบ แล้วก่อนกลับก็แวะไปเที่ยว Dresden เป็นครั้งที่สอง กับ Chemnitz เป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งสองเมืองนี้ก็เป็นเมืองที่อยู่ในเยอรมนีฝั่งตะวันออก สำหรับทริปนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรมากเป็นพิเศษ ออกแนวชิวๆ ผ่อนคลาย เปลี่ยนบรรยากาศหลังสอบ ก่อนจะเปิดเทอมมากกว่า จะเน้นเป็นอัพรูปละกัน

สถานที่ใหม่ที่เราไปเที่ยวในเบอร์ลินครั้งนี้ก็คือ Tempelhof ซึ่งเป็นลานกว้างที่ในอดีตเคยเป็นสนามบินมาก่อน หลังจากที่สนามบินถูกปิดไปแล้วมีการทำประชามติของชาวเบอร์ลินว่าต้องการให้มีการสร้างเมืองที่ตรงพื้นที่นี้รึเปล่า แต่ชาวเมืองโหวตโน เค้าเลยปล่อยลานรันเวย์ให้กลายเป็นลานกว้างว่างๆมาจนถึงทุกวันนี้ ให้ชาวเมืองมาทำกิจกรรมผ่อนคลายกันตามอัธยาศัย ส่วนตัวอาคารสนามบินก็กลายเป็นโกดังแสดงงานศิลปะให้คนมาเช่าพื้นที่ไปใช้ได้ แล้วก็ยังมีทัวร์ชมภายในอาคารสนามบินในช่วงเวลาที่ไม่มีการใช้งานอีกด้วย

IMG_9767
ที่ฝั่งตะวันออกของ Tempelhofer Feld จะมีบริเวณเล็กๆที่ชาวเมืองเอาของเก่าที่ไม่ใช้แล้วมาวางกองๆทิ้งไว้รวมกัน แต่ว่าพวกของเก่าเหล่านี้ก็ยังดูดีอยู่ แล้วก็มีการจัดวางอย่างค่อนข้างมีระเบียบ สามารถมานั่งๆเดินๆเล่นผ่อนคลายได้ ส่วนบริเวณอื่นๆของฝั่งตะวันออกที่เป็นสนามหญ้าก็จะมีคนมานั่งปิคนิคกันทั่วๆไป

ส่วนในเมือง Dresden ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษนอกจากเดินเที่ยวดูใจกลางเมืองเก่า

 

IMG_9737
นอกจากเดินชมเมืองแล้ว โฮสต์ของเราใน Dresden ยังพาเรามาชมคอนเสิร์ตแจ๊สที่สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตชื่อ Scheune ซึ่งตั้งอยู่ในย่านที่ชื่อว่า Neustadt ด้วย คอนเสิร์ตนี้เข้าชมได้ฟรี ไม่เก็บตังค์ มีเครื่องดื่มขาย ในห้องแสดงคอนเสิร์ตก็เป็นห้องธรรมดาๆแบบในรูป ขนาดประมาณห้องเรียนสองสามห้อง มีเก้าอี้ตั้งล้อมรอบบริเวณว่างๆตรงกลางห้องที่เว้นไว้ให้สำหรับวงดนตรี ใครจะมาดูก็ได้ ขนาดคนที่นั่งใกล้ๆเรายังพาหมามาดู 555 เค้าให้หมานอนอยู่นิ่งๆในตะกร้าใต้เก้าอี้ของเค้า นักดนตรีเล่นดีมาก ระหว่างโชว์มีทอล์คโชว์ด้วย แต่เป็นภาษาเยอรมันสำเนียงตะวันออก ฟังไม่ออกเลย 55

ส่วนเมือง Chemnitz ยิ่งไม่มีอะไรเลย 555 ไม่รู้จะมาทำไม 55555 เป็นอดีตเมืองในเยอรมนีตะวันออกที่ยังมีร่องรอยของเยอรมนีตะวันออกอยู่เยอะมาก มีอาคารที่พักอาศัยทรงแท่งๆทื่อๆ ที่คนที่นี่เรียกว่า Plattenbau อยู่เต็มไปหมดตรงแถวๆบริเวณใจกลางเมือง บางตึกถูกทาสีใหม่ให้ดูสดใสยิ่งขึ้น แต่หลายๆตึกก็ยังดูอึมครึม ไม่มีการเรโนเวตใหม่ นอกจากนั้นก็ยังมีตึกเก่าๆที่ถูกทิ้งร้างให้เห็นอยู่ทั่วไป ยิ่งเรามาเที่ยวในวันที่อากาศมืดครึ้ม ฝนตกพรำๆ ยิ่งทำให้บรรยากาศยิ่งดูอึมครึมขึ้นไปอีก

IMG_9857
ถนนเส้นหลักที่วิ่งผ่านใจกลางเมือง อารมณ์ประมาณต่างจังหวัดที่ไทยเลยมะ

จบแล้วสำหรับทริปปิดเทอมอันอึมครึม 555 ปีนี้เที่ยวน้อยมาก ปีที่แล้วตอนปิดเทอมนี่เที่ยวเป็นอาทิตย์ๆ โหดมันฮากว่านี้มาก สำหรับปีนี้ที่ผ่านๆมาจะไม่ค่อยมีเวลาเลย ในมหาลัยเรียนเยอะกว่าใน Studienkolleg เยอะมาก เวลาว่างสำเที่ยวก็น้อยลง ทริปที่ผ่านๆมาเลยไม่ค่อยโหดมันฮา ไม่ค่อยมีอะไรมาเล่าเหมือนตอนปีที่แล้วเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ฝากความหวังไว้สำหรับทริปปิดเทอมที่จะมาถึง หวังว่าคงจะมีอะไรสนุกๆให้มาเล่าให้ฟังโนะ อิอิ สำหรับวันนี้ต้องขอเตรียมตัวออกไปทำงานก่อน เดี๋ยวตอนต่อๆไปจะมาเล่าเรื่องทริปสุดสัปดาห์ใน Amsterdam ทริปเดินป่าใน Allgäu กับทริปหนึ่งวันหลังสอบใน Tübingen ที่เพิ่งไปมาเมื่อไม่กี่วันนี้ให้ฟัง รับรองว่ามีรูปสวยๆมาให้ดูแน่นนอน!

IMG_9923
วิวพระอาทิตย์ตกดินระหว่างเดินทางกลับมายัง Karlsruhe

Dresden & กระเป๋าตังหาย

การเดินทางจาก Leipzig ไป Dresden คราวนี้ เราจองตั๋วรถบริษัท Berlinlinienbus บริษัทนี้จะต่างจากบริษัทอื่นๆสองอย่าง อย่างแรกก็คือเราต้องพิมพ์ตั๋วใส่กระดาษมายื่นให้คนขับดู ถ้าเป็นบริษัทอื่น แค่เซฟไฟล์ตั๋วที่ได้รับทางอีเมลล์ลงมือถือแล้วเอาไปยื่นให้คนขับดูก็ขึ้นรถได้แล้ว อย่างที่สองก็คือบริษัทนี้ไม่คิดค่าโหลดกระเป๋ารวมไปในค่าตั๋ว ถ้าจะเอากระเป๋าของเราใส่ช่องสัมภาระตรงใต้รถจะต้องจ่ายเพิ่มหนึ่งยูโร ก่อนจะขึ้นรถเราก็หยิบกระเป๋าตังออกมาจ่ายเงินให้เค้า พอขึ้นไปนั่งในรถก็วางกระเป๋าตังไว้กับกระเป๋าสะพายที่เบาะข้างๆ แต่พอตอนลงปรากฏว่าหยิบลงมาแค่กระเป๋าสะพาย ทิ้งกระเป๋าตังไว้จ้า แล้วคือเดินๆๆไม่ได้รู้ตัวเลยจนไปถึงสถานีรถราง จนจะหยิบเงินมาซื้อตั๋วนั่นแหละถึงได้รู้ว่ากระเป๋าตังไม่ได้อยู่ในกระเป๋ากางเกงแล้ว ลากกระเป๋าหนักยี่สิบกิโลกลับมาที่ที่จอดรถบัสอย่างไม่คิดชีวิต แต่ไม่ทัน รถไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ เราเลยโทรไปหาบริษัทรถบัสตามเบอร์ที่อยู่ในตั๋วแล้วก็บอกว่าลืมกระเป๋าตังไว้บนรถ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีอยู่วิธีเดียวเท่านั้นคือเราต้องไปกรอกรายละเอียดในเว็บของ Berlinlinienbus แล้วเจ้าหน้าที่จะติดต่อไป เสร็จแล้วเราก็โทรบอกเพื่อนที่ Dresden ว่ากระเป๋าตังหาย แล้วซักพักเค้าก็มารับเราที่สถานีรถไฟ

DSCF1053DSCF1300DSCF1273

เพื่อนที่ Dresden คนนี้เป็นผู้หญิงชาวเยอรมันชื่อ Lia เราเคยโฮสต์เค้ากับแฟนเค้าในกรุงเทพ วันนี้ Lia มาหาที่สถานีรถไฟพร้อมกับผู้ชายอีกคนที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน หลังจากเค้ากอดทักทายเราเสร็จก็ชี้ไปที่ผู้ชายคนนั้นแล้วก็บอกเราว่านี่แฟนเค้าเอง

DSCF1059

DSCF1303DSCF1256

นอกเรื่องนิดนึง คือแอบใจหายที่ได้ยินอย่างนั้น หลังจากครั้งสุดท้ายที่เราเจอเค้าสองคนก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันเท่าไหร่ Lia ไม่มีเฟซบุ๊ค ส่วนแฟนเก่าเค้าก็ไม่ค่อยเล่นเฟซ ไม่รู้เลยว่าไปเลิกกันตั้งแต่เมื่อไหร่ พอมาได้ยินข่าวแบบสายฟ้าแล่บอย่างนี้รู้สึกใจหายเหมือนโดนบอกเลิกเองยังไงอย่างงั้น แล้วยิ่งเห็นสองคนสวีทหวานแหววกันมันเจ็บอยู่ลึกๆข้างใน โอ๊ย เพ้อเจ้อละ 555 หลังจากเจอกันแล้วทั้งสองคนก็พาเราเดินจากสถานีรถไฟ ผ่านใจกลางย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยตึกโบราณที่สวยงามมากๆ แล้วก็มาขึ้นรถรางไป WG ของ Lia กัน

DSCF1081DSCF1087DSCF1084DSCF1281DSCF1267

กลับมาเรื่องกระเป๋าตังต่อ พอเก็บข้าวของเสร็จแล้วเราก็มาเข้าเน็ต เข้าเว็บของ Berlinlinienbus แล้วก็เข้าไปตรง Lost&found กรอกๆๆข้อมูลกระเป๋าตัง เที่ยวรถ แล้วก็กดส่ง แล้วก็ได้แต่หวังว่าเค้าจะตอบกลับมาเร็วๆ เสร็จแล้วก็ส่งไลน์ไปบอกแม่ว่ากระเป๋าตังหายให้ระงับบัตรเครดิตให้หน่อย ส่วนบัตรเอทีเอ็มไม่ได้ระงับเพราะว่าตอนนั้นมีเงินอยู่ในบัญชีน้อยและยังมีความหวังว่าจะได้กระเป๋าตังคืน แล้วเรามีบัญชีของธนาคารทหารไทย ปกติที่บ้านจะโอนเงินมาเข้าบัญชีนี้แล้วเราจะกดเงินโดยใช้บัตรเอทีเอ็มทหารไทยจากธนาคารในเยอรมันได้โดยเสียค่าธรรมเนียมแค่ 75 บาทเท่านั้น!!! ถ้าไม่มีบัตรเอทีเอ็มอันนี้แล้วต่อไปเวลาที่บ้านจะโอนเงินมาให้คงจะลำบาก

DSCF1092DSCF1106DSCF1108DSCF1117DSCF1114

นอกจากระงับบัตรเครดิตแล้วก็ไม่มีอะไรต้องทำละ จริงๆแล้วมานึกดูอีกที มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมาย เพราะว่าบัตรต่างๆในกระเป๋าตังก็ใช้ที่เยอรมันไม่ได้ ทั้งบัตรประชาชน บัตรนักเรียน บัตรสมาชิกนู่นนี่ ส่วนพาสปอร์ตก็ยังอยู่กับเรา ปัญหาใหญ่ตอนนี้ก็มีแค่เรื่องเงินเท่านั้นแหละ เสียดายไม่ได้เก็บเงินแยกไว้ คราวหลังต้องเก็บเงินแยกไว้หลายๆที่ ระหว่างที่เราอยู่ที่ Dresden ก็เลยอดซื้อของกิน ต้องรอกินข้าวที่บ้านกับ Lia อย่างเดียว แต่ยังดีที่เค้าให้เรายืมจักรยานมาขี่ แล้วก็ออกเงินค่ารถรางให้ตอนวันกลับ ส่วนรถบัสจาก Dresden กลับไป Karlsruhe ก็จองในเน็ตโดยใช้เลขบัตรเครดิตของแม่ได้

DSCF1099DSCF1104DSCF1279DSCF1075DSCF1250

มีเรื่องตลกอย่างนึงเกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ใน Dresden คือตอนเราโทรไปหาบริษัทรถบัส ตอนแรกเราถามเค้าว่าพูดอังกฤษได้มั้ย พนักงานก็เงียบไปซักพักแล้วก็บอกว่า “โน” เราก็เลยพูดเยอรมันกับเค้า ต่อมา Lia ก็เล่าให้เราฟังว่า คำว่า “(Nu) โน” ในภาษาถิ่นที่ Dresden แปลว่าใช่ ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า “Na klar (นาคลา)” ที่แปลว่าแน่นอนในภาษาเยอรมัน ในขณะที่ในภาษากลางเยอรมัน คำว่าใช่จะพูดกันว่า “Ja (ยา)” สรุปคือต้องงูๆปลาๆพูดเยอรมันกับพนักงานไปทั้งที่น่าจะพูดอังกฤษเพราะเราพูดคล่องฟังคล่องกว่า จะได้เคลียร์ๆ

DSCF1118
Neumarkt
ตึกสมัยยุคคอมมิวนิสต์กำลังถูกทุบทิ้ง
ตึกสมัยยุคคอมมิวนิสต์กำลังถูกทุบทิ้ง
ซากเมืองเก่าที่เพิ่งถูกขุดเจอ
ซากเมืองเก่าที่เพิ่งถูกขุดเจอ

DSCF1186DSCF1209DSCF1131DSCF1220

เมือง Dresden อันแสนงดงามที่เราใฝ่ฝันอยากจะมาเหยียบมานาน ของจริงก็สวยสดงดงามราวกับที่เคยจินตนาการเอาไว้เลย แต่แค่บริเวณเมืองเก่านะ ตรงบริเวณเมืองใหม่ที่สร้างหลังสงครามโลกจะเป็นสไตล์เมืองเยอรมันธรรมดาๆ ปนกับพวกตึกที่สร้างสมัยยุคคอมมิวนิสต์เยอรมันตะวันออก ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แถมเมืองยังแอบสกปรก ทรุดโทรม ไม่สะอาดเหมือน Munich หรือ Karlsruhe ตรงบริเวณเมืองเก่าที่มีแต่ตึกสวยๆนั้นจริงๆแล้วเป็นเมืองที่ใหม่มากกว่าบริเวณ “เมืองใหม่” ซะอีก เพราะว่าตึกสวยๆพวกนี้จริงๆแล้วได้ถูกทำลายราบไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วก็มาถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ ซึ่งการบูรณะก็ทำได้อย่างเชื่องช้าเนื่องจากงบประมาณมีน้อย เพิ่งจะมาเสร็จจริงๆเอาก็เมื่อประมาณสิบปีมานี้เอง

DSCF1245DSCF1247DSCF1246DSCF1242

หลังจากดื่มด่ำกับสถาปัตยกรรมอันเลอค่าของพระราชวังต่างๆใน Dresden แล้วก็ถึงเวลาต้องเดินทางไกลแสนไกล กลับไปยัง Karlsruhe อีกครั้ง และในที่สุดคราวนี้เราก็ได้กลับไปในฐานะผู้อยู่อาศัยจริงๆ! ถึงตอนนี้จะเป็นผู้อยู่อาศัยถังแตกก็เถอะ 55 เราติดต่อกับโฮสต์คนอื่นที่ส่งข้อความมาหาเราก่อนหน้านี้ใน Karlsruhe ว่าเราจะไปพักกับเค้าในช่วงแรกๆระหว่างที่หาที่อยู่และจัดการเรื่องต่างๆ หลังจากนี้จะต้องมีงานรายงานตัว งานเอกสาร งานราชการอะไรต่างๆให้ทำเยอะแยะไปหมด แต่อีกแค่ไม่กี่อึดใจเราก็จะได้เริ่มใช้ชีวิตการเป็นนักเรียนในเยอรมันแล้ว!

DSCF1261DSCF1259DSCF1127